วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ไดอารี่ สีแดง

สามปีหกเดือน ณ.จอร์แดน
ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ปีสี่ เทิอมสอง มหาลัยก้อเปิดเทิอมมาได้ สามสัปดาแล้ว ตอนนี้กำลังหมดหน้าหนาวและฤดูใบไม้ผลิกำลัง แทนที่ อย่าถามว่าฤดูหนาวมันเป็นยังไงบ้าง คำตอบเดียวที่ให้ได้คือหนาวมาก แต่ก้อนะทำไมปีนี้หิมะยังไม่ตกก้อไม่รุ้ อากาศก้อเอาแน่เอานอนไมไ่ด้ บทจะหนาวก้อหนาว บทจะร้อนก้อร้อนขึ้นมา นี้แหละหน้อที่ว่า ฤดูไม่ต้องตามฤดูกาล หรือว่านี้เป็นสัญญาณว่าไกล้กิยามัตแล้ว (นาฮุซุบิลละ) ถ้าฉันตายไปวันนี้พรุ่งนี้ ฉันจะเป็นยังไงหน้อ จะตอบ มาลาอีกะ ในหลุมฝังศพยังไงดี?? พลันความรู้สึกผวงก้อผุดขึ้นในใจ. วันนี้วันเสาร์ ใช่ วันนี้มันวันหยุดแห่งชาติ อากาศอยู่ที่ 8 องศา หนาวๆแต่ไม่มากเท่าไหร่ลมพัดแรงข้างนอก ถึงแม้ปีนี้หิมะยังไม่ตกแต่ ดอกซากุระก้อเริ่มบานสะพรั่งแล้ว ซึงปกติดอกซากุระ จะบานช่วงเริ่มแรกของฤดูใบไม้ผลิ หลังหิมะตก ถือเป็นการสิ้นสุดฤดูหนาวนั้นเอง ในใจก็แอบคิดเราจะได้เล่นหิมะเป็นุดท้าย ส่งท้ายจอร์แดนมั้ยนะ แต่ถ้าไม่ตกก้อเสียดายแย่ไม่ตกก้อไม่เป็นไร วัลลอฮอะลัม
พรุ่งนี้เปิดเรียนอีกแล้วทำไมวันหยุดมันช่างแสนสั้นเหลือเกิน สองวัน วันหยุดสุดสัปดา วันศุกร์และเสาร์ แต่ทำไมรู้สึกว่า อาทิตย์- พฤหัส วันเปิดเรียนมันช่างแสนยาวนานจัง อาจจะเป็นเพราะสภาพอากศที่หนาวเย็น ร่างกายเลยปฏิเสธที่จะ ออกไปไหนคิดถึงแต่ผ้าห่มอุ่นๆในบ้านที่แสนจะสบาย แต่นั้นแหละอนิจจังจะทำเเบบนั้นก้อคงไมไ่ด้เพราะ "เรียนๆ" ท่องไว้ๆอยากจะโดดเรียนอยุ่บ้านมากแค่ไหนก้อต้อง ฝืนใจลุกขึ้นไปมหาลัย ที่นี้ปีหนึ่งมีสี่ฤดู ประกอบไปด้วยฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูใบไม้ผลิ แน่นอน ปีๆนึงเราจะตั้งหน้าตั้งตารอฤดูใบไม้ผลิ เพราะมันอบอุ่นและทิวทัศวิวสวยงามที่สุด จะมีดอกไม้บานสะพรั่ง สวยงามจริงๆ พืชผลที่นี้ จะหากินได้อยากมากถ้าไม่ใช้ฤดูกาลของมัน บ้านเรายังพอหากินได้บ้างแต่ที่นี้ยากมากอาจจะด้วยว่า ฤดูแต่ละฤดูนั้นแนสั่นซะเหลือเกินกินเวลาเพียงแค่สามเืดือนเท่านั้น แต่ฤดูที่ผลไม้ออกมาให้เราได้เห็นได้กินกันมากที่สุดเห็นจะเป็นฤดู ร้อนนะไม่ว่าจะเป็น องุ่นที่เป็นไม้ประจำประเทศก้ว่าได้ เค้าก้อปลูกทิ้งปลูกขว้างแบบว่ามีกันทุกบ้านเลยก้อว่าได้นะ ปลูกไว้เป็นร่มเงา ในท้องตลาดก้อมีขายนะแต่ราคาถูกมากถ้าในช่วงที่ออกผลเยอะๆก้อตกอยุ่ที่ กก. ละครึ่งดีนาร์ หรือตกอยุ่ที่ ยีสิบบาท เมือไทย แต่ที่ตั้งตารอเอามากๆอยากกินคงจะเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเชอร์รี่ กก. ละ หนึ่งดีนาร์ ห้าสิบบาท บลูเบอร์รี่ ลาสเบอรี่ พูดแล้วหิวอยากกินขึ้นมา ฮ่าๆ อยู่เมืองไทยคงไม่มีวาสนา กก. เป็นพันเลยทีเดียว อยู่ที่นี้กินกันทุกวันซื้อทีเป็นกะบะ ถูกมากๆ แล้วก้อไม่เอ่ยไมไ่ด้เลยนางเอกของเรา สตรอเบอรี่ ด้วยความที่ได้ใจซื้อยกต้นเลยค่ะ ถ้าจะบอกได้ว่าสดจากต้นค่ะ ซื้อที่ต้นมีผลแดงๆไกล้จะสุกนะ ถามว่าทำไมไม่ซื้อที่ขายเป็น กก. คำตอบคือ เพื่อความสะใจ ว่าสดจริงอะไรจิงค่ะ ฮ่าๆๆๆ ลมข้างนอกยังไม่สงบเท่าไหร่ ตอนนี้ ก้อได้เวลาละหมาดแล้วไปละหมาดก่อนดีกว่่า วันนี้ study day let's go ti study ........... seee you next time ^^