วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

รับแปลภาษามลายู ไทย แปลเอกสารภาษาอาหรับ ^&^ แปลเอกสารภาษามลายู ภาษาอาเซี่ยน

รับแปลเอกสารภาษาอาเซี่ยน 
ไทย  - มาเลย์เซีย
มาเลย์เซีย - ไทย

แปลเอกสารทั่วไป
แปลเอกสารเรียนต่อ
 แปลเอกสาร เช่น เมนูอาหาร
 
ภาษามลายูที่ใช้เป็นภาษาราชการนะค่ะ  ภาษามลายู มาเลย์เซีย  
มลายู อินโดนีเซีย ค่ะ
ราคาขึ้นอยุ่กับรายเอียดการแปล   ความยากง่าย  และเนื้อหาค่ะ สามารถ คุยได้ค่ะ


 ติดต่อสอบถาม  083-5773654   ครูเนย์
 ที่อยู่   1409   ถ.เพชรเกษม   หาดใหญ่  สงขลา   90110
Id  line :  0835773654  >>  Boss.nay.tutor



กวดวิชา เรียนพิเศษ วิชา ภาษามาเลย์เซีย ภาษามลายู ภาษาอังกฤษ และ ภาษาอาหรับ รับแปลเอกสาร ภาษามลายู อาหรับ เอกสารราชการต่างๆ @ SUCCESS TUTOR Hatyai ,Songkhla

จ๊ะเอ๋
เฮลโหลๆๆ เทสๆๆ....... เปิดร้านไหม่ไฉไล กว่าเดิม
หนึ่งปีผ่านไป อะไรๆก็เปลี่ยน สถาบันภาษา ซัคเซสติวเตอร์ ด้วยวามอุปการะของลูกค้าและเเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง  ตอนนี้เราได้ขยาย ร้านจากห้องเรียนเล็กๆ เด็กไม่กี่น เป็น อาคารตึกสีั่ชั้นแน่นอน่ะ ที่อยุ่ที่ตั้งก็ย่อมต้องเปลี่ยน อันเนื่องจากลูก้าส่วนใหญ่ก็ได้เซิทหา ติวเตอร์และบริการของเรา จาก กูเกิ้ล อย่างไรเสีย ทางเราก็ขอขอบพระุณเป็นอย่างสูงที่ไว้วางใจและมอบโอกาศดีๆให้กับเราได้ ทำหน้าที่มอบโอกาศและวามรู้ให้กับบุตรหลานของท่าน  ซัเซสติวเตอร์ เปิดสอน ทุกระดับชั้น  เปิดสอน สามภาษาหลักๆ่ะ

ติวเข้ม รายวิชาที่เปิดสอน
1. ภาษามลายู   (อาเซี่ยน)
2. ภาษาอังกฤษ
3. ภาษาอาหรับ

ที่สถาบันของเรา เราเน้นไปที่ รายวิชาด้านภาษานะ่ะ ที่ไม่มีวิชาที่หลากหลายมากกว่านี้เพราะเรารูผู้สอนเชี่ยวชาญด้านภาษาและจบจาก สาขาวิชา ด้านภาษาโดยตรง เรารักในการสอนภาษา แต่หากว่าลูก้าท่านไดสนใจวิชาอื่นๆนอกเหนือจากวิชาที่เปิดสอน  ก็สามารถแจ้งกับทางเราได้่ะ เรามีรูสแตนบายเพื่อท่านลูกค้าที่แสนพิเศษของเรา่ะ โดยแต่ละภาษาท่านสามารถเลือกหลักสูตรที่เรียนได้ตามความเหมาะสมทางเราเปิดสอน สามหลักสูตรด้วยกัน่ะมาลองดูกันว่า ท่านสามารถเลือกเเบบไหนที่ดีกว่าในการเรียน

หลักสูตรของแต่ละภาษา
หลักสูตรที่1   เป็นหลักสูตรสำหรับบุลที่ไม่เคยได้เรียน อ่าน เขียน ในภาษานั้นๆมาก่อน พูดได้ง่ายคือ Non  speaking   ,   non reading  non  understanding ูู^^ เรามาเริ่มเรียนกันตั้งแต่นับ  สระ  พยัญชนะ กันเลนที่เดียว หากท่านจบคอร์สในหลักสูตรนี้ได้ ท่านก็จะสามารถอ่านภาษานั้นๆได้ พอตัวเลยทีเดียวค่ะ

 หลักสูตรที่ 2    เป็นหลักสูตรที่ต่อยอดจากพื้นฐานความรู้ที่มีอยุ่ โดยผู้เรียน ที่สามารถอ่านออกเขียนได้ หรือมีพื้นฐานของภาษานั้นๆมาแล้วบางส่วน โดยปกติแล้วจะเป็นหลักสูตรทั่วไปเช่น  ใช่ต่อยอด การเรียน ในห้องเรียน การเรียนเพื่ออัพเกรด การเรียนเน้นคำศัพน์ หรือ หลักแกรมม่า ที่เน้น เป็นต้น

หลักสูตรที่ 3    สำหรับหลักสูตรสุดท้าย เราหวังว่าจะตอบโจทย์ท่านมากในระกับนึง  สำหรับหลายๆท่านที่กำลังมองหาที่สำหรับการฝึกภาษา เราขอแนะนำภาษาเพื่อการสื่อสาร เน้นการใช้ทักษะในการใช้ภาษาได้จริงๆ ในสายงานที่ทำ หรือ ในการใช้ชีวิตประจำวัน เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซี่ยน  เอ๊ ปีหน้า ประเทศไทยเราก็จะ เปิดประชาคมอาเซี่ยนแน่นอนค่ะ ตลาดการแข่งขันย่อมสูงขึ้น จะอยู่ยังงัยละที นี้พูดเป็นอยู่แค่ภาษาเดียว ลองคำนวนดูเล่นๆว่า ใน 10  ประเทศ อาเซี่ยน ภาษา อะไรที่เป็นภาษาที่ถูกใช้มากที่สุด ติ๊ก ต๊อกๆๆ ถูกต้องค่่ะ  ภาษา มลายูกลางนั้นเอง... เหล่านี้ประกอบไปด้วย  มาเลย์เซีย อินโดนีเซีย  สิงคโป  บรูใน  แ่นี้ก็กวาด อาเซี่ยนไปแล้วกว่า ครึ่งค่อน อาเซี่ยน ..  เตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ มองตัวท่านในนาคต ในไม่กี่ปีข้างหน้า เราจะยืนอยู่จุดใหนในประชาคม อาเซี่ยน


บริการใหม่แกะกล่อง  รับแปลเอกสาร
รับแปลเอกสาร ทั่วไป เอกสารราชการ ค่ะ
เริ่มต้นที่ราคาเบาๆ  ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของคุณค่ะ
แปลเอกสารทั่วไป
แปลเอกสารเรียนต่อ
แปลเอกสาร ราชการ
แปลเมนู อาหาร

ท่านสามารถติดต่อได้ผ่านหลายช่องทางค่ะ  facebook :  success tutor
Line  Id :  0835773654
ที่ตั้ง   1409  ถ.เพชรเกษม   หาดใหญ่  สงขลา   90110   ( ตั้งอยู่หน้าถนนใหญ่  ติดกับคิวรถมินิบัส  หาดใหญ่ - ภูเก็ต)

เบอร์โทร ติดต่อ   083-5773654 ครูเนย์






วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กวดวิชา เรียนพิเศษ วิชา ภาษามาเลย์เซีย ภาษามลายู ภาษาอังกฤษ และ ภาษาอาหรับ @ SUCCESS TUTOR Hatyai ,Songkhla

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพี่ๆน้องชาวไทยทุกคน หลังจากที่ห่างหายการอัพเดทหน้าเวบบล็อกของตัวเองเนิ่นนาน วันนี้เราก้อมีข่าวดีมาบอกเล่ากันค่ะ ทางเราได้มีสถาบันกวดภาษาต้อนรับประชาคนอาเซี่ยน แล้วค่ะ ใครที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่สำหรับการเรียน ภาษามลายูกลาง หรือภาษาอังกฤษ และภาษาอาหรับ สำหรับสถาบันภาษาของเรา มีทางเลือกใหม่ให้คุณแล้วค่ะ ฉีกมุมมองและโลกของติวเตอร์แบบเดิมๆ เริ่มด้วย โปรแกรมภาษามลายูกลาง ที่กำลังเข้ามามีบทบาทกับประเทศไทยเปนอย่างมากในอีกไม่ช้านี้ ใครดีใครได้ ใครพร้อมคนนั้นย่อมเหนื่อกว่าอยู่แล้วค่ะในโลกของการศึกษาที่นับวันไร้พรมแดน อย่างดุเดือดเผ็ดมันส์ เมื่อภาษามลายูเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวัน ดังนั้นจะมัวรอช้าอยู่ใย เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับเรานะค่ะ มีหลักสูตรที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าท่านจะ เรียนภาษาเพื่อการต่อยอกในชั้นเรียน เรียนภาษาเพื่อเตรียมตัวไปเรียนต่อเมืองนอก หรือท่านเป็นบุคคลทั่วไป ที่ต้องการจะเรียนภาษาเพื่อการสนทนา แน่นอนค่ะเราตอบสนองความต้องการของท่าน เพียงติดต่อเรา สำหรับ กวดวิชา ภาษาอังกฤษ หรือ เรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ทางเราได้เตรียมหลักสูตรที่ผ่านการรับรอบโดยสถาบันต่างๆแล้วว่าใช้และได้ผลจริงสำหรับกลุ่มนักเรียนนักศึกษาหรือบุคคลทั่วไป ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองค่ะ โดยหลักสูตรที่ใช้เป็นหลักสูตรจาก Hello America จากประเทศอเมริกา กันเลยทีเดียวครอบคลุมตั้งแต่อนุบาบจนถึงเลเวลการสนทนาและการเรียนรู้ผ่านสื่อต่างๆ สอนโดยพี่ๆที่มีประสบการดีกรีเมืองนอกกันเลยค่ะ รับรอบเรียนแล้วสนุกแน่นอนค่ะ มาเป็นส่วนหนึ่งของเราสิค่ะ Tell 083-5773654 ครูเนย์ ถ.เพชรเกษม ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับติวพิเสษรายบุคคล หรือ ติวร์ที่บ้านด้วยนะค่ะ 083-1928878 kru na

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

Season change

Season Change ทำไมต้อง Season change? เพราะนี้ก็เข้าเดือนมีนาคม อย่างทราบกันดัและเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า จอร์แดนเป็นประเทศที่มี สี่ฤดู ที่ประกอบไปด้วยฤดู ร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วงและฤดู ใบไม้ผลิ..ในแตะละฤดูนั้นจะมีระยะเพียงแค่สามเืดือน แต่ก็แน่นอนที่สุด ถ้าจะถามว่าฤดูใหนที่ยาวนานที่สุดก็คงเห็นจะเป็นฤดูหนาวนี้แหละค่ะ เพราะอะไรนะหรือ ก้อเพราะว่า ถ้าไม่นีับฤดูร้อนแล้วฤดูอื่นๆก็จะ มีสภาพอากาศที่หนาวอยุ่ตลอดเวลา อาจจะไม่หนาวเท่าฤดูหนาวจริงๆก็ตาม...ต่ถ้าถามว่าฤดูใหนที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้วก็คงไม่พ้นฤดูไม่ใล้ผลิ ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาพอดี ฤดูใบไม้ผลิจะเริ่มตั้งต่หลังหิมะตก หรือจะอยุ่ประมานช่วงมีนาคมถึงมิถุนายนก็จะสิ้นสุดฤดูใบไม้ผลิ ฤดูนี้จะเป็นช่วงที่อากาศดีและอบอุ่นที่สุดของปี อุณหภูมิจะอยุ่ที่ประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส.ด้วยภูมิประเทศจอร์แดนตั้งอยุ่บนที่ราบสูง พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาสลับซับซ้อนกันไป ต่าจากเมืองไทยบ้านเรามากๆแทบจะหาที่ราบไมไ่ด้เลย หลายคนคงสังสงว่าอ้าวล้วเค้าอยู่กันยังไงสร้างบ้านกันยังไง มีคำตอบค่ะ ด้วยภูมิประเทศที่ไม่ค่อยมีต้นไม้และป่าเขาเลย การใช้ชีวิตที่นี้จึงไม่ซับซ้อนและยุ่งยากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับบ้านเราไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงหรอเมืองต่างๆ คุณลองนึกถึงภูเขาที่ไม่สูงมากนัก ไม่มีต้นไม้ แต่ไม่ใช่ืะเลาทรายนะค่ะ อ่า แล้วถ้าสมมุตคุณเอากล่อกระดาษลังสี่เหลี่ยม เล็กใหญ่ตามขนาดมาวาง รายล้อมภูเขา หรือวางไว้ส่วนใหนก็ได้ด่านบนหรือด้านล่าง ภาพที่คุณเห็นนั้นแหละค่ะ บ้านเมืองของจอร์แดนที่คุณพอจะสามารถมโนภาพได้.ปิ๊งเดียวที่คุณเหนภาพเหล่านั้นในหัวก็อาจจะเกิดคำถามขึ้นอีกว่า แล้วบ้านรูปทรงต่างๆเหมือนบ้านเราไม่มีหรอ? คำตอบคือมีต่ส่วนน้อย นั้นเป็นเพราะหลายเหตุผลค่ะ เรื่องฤดูก็เป็นส่วนหนึ่ง สภาพภูมิประเทศ การเป็นอยุ่ การใช้ชีวิต และอีกหลายๆเหตุผลค่ะ แล้วฤดูมันมีบทบาทอย่างไรในการสร้างบ้านเมืองเหล่าวนี้ อ่าคนอ่านก้อเริื่มงง??? เราจะเล่าให้ฟังเนื่องจากเมืองไทยบ้านมีเพียงเเค่สองฤดู คือ ร้อนกับฝน จึงไม่จำเป็นต้อง ครีเอท อะไรมากมายเอาพอกันแดด กันลมก็ถือว่าใช้ได้แล้ว เอาตามกำลังจะมีความสามรถ เห็นได้ทั่วๆไปค่ะ แต่ด้วยวา่่าที่นี้เมือฤดูหนาวมาเยือนมันจะหนาวยะเยือกมาก อุณห๓ภูมิ อยุ่ที่ -10 องศา เลยบางครั้งเมื่อหิมะตกหนักๆ การสร้างบ้านจึงต้องอาศัยวัสดุที่คงทนและ สามารถรักษาระดับอุณภูมิบ้านจากอากาศที่โหดร้ายได้ แล้วทำไมบ้านจึงไม่มีหลังคา? คิดๆก้อแปลกดีนะบ้านไม่มีหลังคา ก็อยุ่เมืองไทยเคยชินแต่บ้านแบบนี้ ตอนมาไหม่ๆก็ งงๆ แต่ด้วยเหตุผลที่ว่าเมือถึงฤดู ใบไม้ร่วงจะมีพายุเข้าอยุ่เป็นเนื่องๆ เพราะกำลังอยุ่ในช่วงลมฤดู อาจจะมาเป็นพายุเล็กๆหรือ พายุใหญ่ๆก็มีให้เห็นเป็นบางครั้ง ด้วยเหตุผลนี้บ้านที่นี้จึงไม่สามารถมีหลังคาได้ ไม่งั้นก็คงจะปลิวไปหมด อีกอย่างคือ ถ้าสังเกตดีๆ ต้นไม้ที่ประเทศนี้จะไม่ยืนตรงดิ่งขึ้นเหมือนบ้านเรา เกือบทุกต้นจะขึ้นและเอียงๆ ตั้ฉากกับพื้นดิน ลองนึกภาพดูค่ะ นี้ก็เป็นเพราะลมที่พัดแรงอยู่ตลอด จึงทำให้ต้นไม้ขึ้นเอียงๆ นึกดูก็คงตลกดีนะค่ะ.อันความว่าสิ่งที่พระเจ้าสร้างบนความแตกต่างก็ยังมีฮิกมะ(สิ่งที่ดี)ในตัวของมัน ไม่มีฤดูหนาวไหนเลยจะได้เล่นหิมะ แม้จะเป็นเวลาสั่น หรือต้องทนกับความเหน็บบจนสั่นทะท้านก็ตาม ฮ่าๆ แต่นั้นแหละคือ กำไรของเด็กเรียนนอกอย่างๆเรา พอเรียนจบก็คงกลับไปตากแดด อุณภูมิ 30-40 องศา ร้อนกันตับแล๊บที่เมืองไทยอีกนั้นแหละมันหนีกันไม่พ้น ไม่เคยร้อนไหนจะรุ้เลยว่าหนาวเป็นยังไง ในความเหน็บหนาวไหนเลยจะรุ้ว่าการได้เล่นหิมะมันส์ขนาดใหนหนาวแค่ไหนก็ยอมค่ะพี่น้อง..เกือบลืมนางเอกของงานนี้ไปซะแล้ว เมือวานไปถ่ายรูปดอกซากุระมา ไม่อยากจะบอกว่าสวยมาก แปลกใจอ่าสิ นึกว่ามีแต่ญี่ปุ่น จอร์แดนก้อมีครับ ซากุระจะบานปีละครั้งคือแรกเริ่มฤดูใบไม้ผลิหลังสิ้นสุดฤดูหนาวจะบานสะพรั่งมีหลายสี ดอกซากุระมีสีสีขาวสีชมพูอ่อน ชมพูเข้มแต่กลิ่นดอกซากุระจะไม่หอมรัญจวนเท่าดอกไม้อื่นๆค่ะ อาศัยความสวยก็กินขาดเจ้าค่ะ

วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ไดอารี่ สีแดง

สามปีหกเดือน ณ.จอร์แดน
ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ปีสี่ เทิอมสอง มหาลัยก้อเปิดเทิอมมาได้ สามสัปดาแล้ว ตอนนี้กำลังหมดหน้าหนาวและฤดูใบไม้ผลิกำลัง แทนที่ อย่าถามว่าฤดูหนาวมันเป็นยังไงบ้าง คำตอบเดียวที่ให้ได้คือหนาวมาก แต่ก้อนะทำไมปีนี้หิมะยังไม่ตกก้อไม่รุ้ อากาศก้อเอาแน่เอานอนไมไ่ด้ บทจะหนาวก้อหนาว บทจะร้อนก้อร้อนขึ้นมา นี้แหละหน้อที่ว่า ฤดูไม่ต้องตามฤดูกาล หรือว่านี้เป็นสัญญาณว่าไกล้กิยามัตแล้ว (นาฮุซุบิลละ) ถ้าฉันตายไปวันนี้พรุ่งนี้ ฉันจะเป็นยังไงหน้อ จะตอบ มาลาอีกะ ในหลุมฝังศพยังไงดี?? พลันความรู้สึกผวงก้อผุดขึ้นในใจ. วันนี้วันเสาร์ ใช่ วันนี้มันวันหยุดแห่งชาติ อากาศอยู่ที่ 8 องศา หนาวๆแต่ไม่มากเท่าไหร่ลมพัดแรงข้างนอก ถึงแม้ปีนี้หิมะยังไม่ตกแต่ ดอกซากุระก้อเริ่มบานสะพรั่งแล้ว ซึงปกติดอกซากุระ จะบานช่วงเริ่มแรกของฤดูใบไม้ผลิ หลังหิมะตก ถือเป็นการสิ้นสุดฤดูหนาวนั้นเอง ในใจก็แอบคิดเราจะได้เล่นหิมะเป็นุดท้าย ส่งท้ายจอร์แดนมั้ยนะ แต่ถ้าไม่ตกก้อเสียดายแย่ไม่ตกก้อไม่เป็นไร วัลลอฮอะลัม
พรุ่งนี้เปิดเรียนอีกแล้วทำไมวันหยุดมันช่างแสนสั้นเหลือเกิน สองวัน วันหยุดสุดสัปดา วันศุกร์และเสาร์ แต่ทำไมรู้สึกว่า อาทิตย์- พฤหัส วันเปิดเรียนมันช่างแสนยาวนานจัง อาจจะเป็นเพราะสภาพอากศที่หนาวเย็น ร่างกายเลยปฏิเสธที่จะ ออกไปไหนคิดถึงแต่ผ้าห่มอุ่นๆในบ้านที่แสนจะสบาย แต่นั้นแหละอนิจจังจะทำเเบบนั้นก้อคงไมไ่ด้เพราะ "เรียนๆ" ท่องไว้ๆอยากจะโดดเรียนอยุ่บ้านมากแค่ไหนก้อต้อง ฝืนใจลุกขึ้นไปมหาลัย ที่นี้ปีหนึ่งมีสี่ฤดู ประกอบไปด้วยฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูใบไม้ผลิ แน่นอน ปีๆนึงเราจะตั้งหน้าตั้งตารอฤดูใบไม้ผลิ เพราะมันอบอุ่นและทิวทัศวิวสวยงามที่สุด จะมีดอกไม้บานสะพรั่ง สวยงามจริงๆ พืชผลที่นี้ จะหากินได้อยากมากถ้าไม่ใช้ฤดูกาลของมัน บ้านเรายังพอหากินได้บ้างแต่ที่นี้ยากมากอาจจะด้วยว่า ฤดูแต่ละฤดูนั้นแนสั่นซะเหลือเกินกินเวลาเพียงแค่สามเืดือนเท่านั้น แต่ฤดูที่ผลไม้ออกมาให้เราได้เห็นได้กินกันมากที่สุดเห็นจะเป็นฤดู ร้อนนะไม่ว่าจะเป็น องุ่นที่เป็นไม้ประจำประเทศก้ว่าได้ เค้าก้อปลูกทิ้งปลูกขว้างแบบว่ามีกันทุกบ้านเลยก้อว่าได้นะ ปลูกไว้เป็นร่มเงา ในท้องตลาดก้อมีขายนะแต่ราคาถูกมากถ้าในช่วงที่ออกผลเยอะๆก้อตกอยุ่ที่ กก. ละครึ่งดีนาร์ หรือตกอยุ่ที่ ยีสิบบาท เมือไทย แต่ที่ตั้งตารอเอามากๆอยากกินคงจะเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเชอร์รี่ กก. ละ หนึ่งดีนาร์ ห้าสิบบาท บลูเบอร์รี่ ลาสเบอรี่ พูดแล้วหิวอยากกินขึ้นมา ฮ่าๆ อยู่เมืองไทยคงไม่มีวาสนา กก. เป็นพันเลยทีเดียว อยู่ที่นี้กินกันทุกวันซื้อทีเป็นกะบะ ถูกมากๆ แล้วก้อไม่เอ่ยไมไ่ด้เลยนางเอกของเรา สตรอเบอรี่ ด้วยความที่ได้ใจซื้อยกต้นเลยค่ะ ถ้าจะบอกได้ว่าสดจากต้นค่ะ ซื้อที่ต้นมีผลแดงๆไกล้จะสุกนะ ถามว่าทำไมไม่ซื้อที่ขายเป็น กก. คำตอบคือ เพื่อความสะใจ ว่าสดจริงอะไรจิงค่ะ ฮ่าๆๆๆ ลมข้างนอกยังไม่สงบเท่าไหร่ ตอนนี้ ก้อได้เวลาละหมาดแล้วไปละหมาดก่อนดีกว่่า วันนี้ study day let's go ti study ........... seee you next time ^^

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เมื่อสิ่งที่อิสลามได้สั่งห้าม

เมื่อสิ่งที่อิสลามได้ห้าม....


อิสลามที่ถูกนำพามาโดย มูฮัมหมัด ซล. สิ่งมาพร้อมกับเราะมัต ความสว่างแก่โลกใบนี้ อย่างเช่น อ.ล ได้ตรัสไว้ว่า

وَما أَرْسَلْناكَ إِلاَّ رَحْمَةً لِلْعالَمِينَ

“และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่อสิ่งอื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย” (ซุเราะห์ อัล อันบิยา อายะ 17)

แปลจาก รากศัพท์ภาษา:

الرَّحْمة: الرِّقَّةُ والتَّعَطُّفُ
เราะห์มัตนั้นเปรียบเสมือน ความอ่อนโยน ความอ่อนน้อม ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้วยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ”

หรือด้วยความหมายอื่นๆกล่าวคือ “เราะห์มัต” เปรียบเสมือนการได้หยิบยื่นความรัก ดั่งเช่นสรุปโดยรวมคือ การมาของศาสนาอิสลามนั้เหมือนการที่อัลลอฮได้หยิบยื่นความรักแก่บ่าวของพระองค์นั้นเอง.

ความรักดังกล่าวนั้น แปลได้เป็นสองความหมายคือความรักในลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ในทั้งหมดของคำสอน
ที่อิสลามได้บอกไว้ รวมไปถึงสิ่งที่อนุมัติ และสิ่งที่ไม่อนุมัติ ดั่งสิ่งที่ อัลลอฮได้ตรัสไว้ว่า

وَقَلِيلٌ مِنْ عِبَادِيَ الشَّكُورُ

“เพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น บ่าวที่จะขอบคุณต่อพระองค์”

เพราะว่าเรามัวแต่มองภาพของมุสลิมบางส่วนในปัจจุบัน เมื่อมีนักอุลามะ ออกมาฟัตวา อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อนุมัติ และอนุมัติในอิสลาม แต่ก็ ยังมีบางคนก็ได้ พูดมาโดยไม่เกรงใจ “อะไรนิดๆหน่อยๆก็ห้ามไปซะหมด”แต่ในทางกลับกันเขาไม่ได้มองว่าสิ่งที่อิสลามได้ห้ามไว้นั้นคือสิ่งที่เป็นอันตราย และที่อนุมัติคือสิ่งที่ดีสำหรับมนุษย์ชาติแล้ว

สิ่งที่ไม่อนุมัติคือสิ่งที่ไม่ดีและมีแต่การขาดทุน
เมื่ออิสลามคือ rahmatan lil ‘alamin ดั่งนั้นผลพวงที่จะตามมาคือ คำสอนของอิสลามนำมาแต่สิ่งที่ดีงามแก่มนุษย์และที่สิ่งที่ถูกห้ามคือสิ่งที่ให้โทษแก่มนุษย์ทั้งสิ้น ข้อมูลเหล่านี้ได้ปรากฏชัดเจนใน kaidah fiqhiyyah:

الشَارِعُ لَا يَـأْمُرُ إِلاَّ ِبمَا مَصْلَحَتُهُ خَالِصَةً اَوْ رَاجِحَةً وَلاَ يَنْهَى اِلاَّ عَمَّا مَفْسَدَتُهُ خَالِصَةً اَوْ رَاجِحَةً

ความว่า..
“อิสลามสั่งให้ทำสิ่งหนึ่งสิ่งไดหากแม้สิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ดี 100% หรือสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าอย่างชัดเจน และอิสลามจะไม่ห้ามสิ่งนั้นนอกจากว่าสิ่งๆนั้นจะให้โทษ 100%หรือว่าสิ่งนั้นจะเป็นที่ไม่ดีปรากฏอย่างชัดเจน”


เชค อับดุลเราะห์มาน บิน นาชิร อัซ ซาดี ได้กล่าวว่า “กฏหรือคำสอนนี้ได้ครอบคลุมทั้งหมดของหลักคำสอนอิสลามอย่าไม่มีข้อกังขา.ทุกอย่างที่ได้พุดมาทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นสิ่งที่ดีและเอื้อประโยชนืต่อกันไม่ว่าจะเป็นมนุษย์กับ มึมนุษย์ด้วยกันหรือ บ่าวกับอัลลอฮ. ดั่งเช่น อัลลอฮได้ตรัสไว้ว่า :

إِنَّ اللَّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالْإِحْسَانِ وَإِيتَاءِ ذِي الْقُرْبَى وَيَنْهَىعَنِ الْفَحْشَاءِ وَالْمُنْكَرِ وَالْبَغْيِ يَعِظُكُمْ لَعَلَّكُمْ تَذَكَّرُونَ

“แท้จริงอัลลอฮทรงใช้ให้รักษาความยุติธรรม และทำดี และการบริจาคแก่ญาติใกล้ชิดและให้ละเว้นการทำลามกและการชั่วช้า และการอธรรม พระองค์ทรงตักเตือนพวกเจ้าเพื่อพวกเจ้าจักได้รำลึก” (ซุเราะห์ อัล นะฮล อายะ 90 )

ในอายัตนี้ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าทุกๆความยุติธรรม ความดี และทุกมิตรภาพ ได้ถูกสั่งใช้โดยคำสอนของอิสลามแล้วทั้งสิ้น.ทุกๆความชั่วช้าและความอยุติธรรมที่บ่าวได้กระทำต่อ องค์อัลลอฮ ล้วนเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจยิ่ง.สิ่งที่เป็น ตัณหาล่อต่ล่อใจมนุษย์ไม่ว่าจะเป็น ทรัพย์สิน เงินทอง ตำแหน่งหน้าที่ แน่นอที่สุดมันคือสิ่งที่ ชารีอะห์ ได้ห้ามไว้แล้วทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม พระองค์ก็ยังคงตระหนักอยู่เสมอถึงบรรดาบ่าวผู้อ่อนแกของพระองค์เกี่ยวกับความดีและสิ่งที่พระองค์ทรงตรัสและสั่งสอนไว้ในอิสลาม เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต และนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในคำสอน. และพระองค์ก้ได้นึกถึงในสิ่งที่ทรงห้ามโดยศาสนา เพราะนั้นคือสิ่งที่จะให้โทษ กับ บรรดาบ่าวของพระองค์นั้นเอง.

และไม่เป็นที่สงสัยได้เลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างทุกๆมัคลุค บนโลกนี้ ล้วนตออัต หรอ ปฏิบัติต่อคำสอนนั้น เพียงน้อยนิดเท่านั้น.สิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดบนหน้าแผ่นดินนี้ ก็ยังคงถูกนำไปให้แม้จะเพียงนิดนิดก็ตามแต่ แต่ทว่าหากสิ่งดีที่มีอยู่นั้นได้ถูกอนุมัติทั้งหมดไม่ต้องสัยเลยว่าทุกสิ่งที่อยู่บนโลกนี้คงจะมีแต่ สิ่งที่อิสลามอนุมัติโดยที่ไม่มี สิ่งที่ ฮารอม หรอสิ่งที่ไม่อนุมัติเลย.
ด้วยเหตุผลนี้อิสลามจึงห้าในสิ่งที่เป็นโทษและไม่ดีต่อมนุษย์แต่กลับส่งเสริมและอนุมัติแต่สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้นดั่งเช่น อัลลอฮได้ตรัสไว้ว่า :

يَسْأَلُونَكَ عَنِ الْخَمْرِ وَالْمَيْسِرِ قُلْ فِيهِمَا إِثْمٌ كَبِيروَمَنَافِعُ لِلنَّاسِ وَإِثْمُهُمَا أَكْبَرُ مِنْ نَفْعِهِمَا

“พวกเขาจะถามเกี่ยวกับน้ำเมา และการพนัน จงกล่าวเถิดว่า ในทั้งสองนั้นมีโทษมากและมีคุณหลายอย่างแกมนุษย์ แต่โทษขอมันนั้นมากกว่าคุณของมัน” (อัล บากอเราะห์ อายะ 219 )

อาจจะมีบ้างบางครั้งคนเราลังเลที่จะ ลดละนิ่ที่ศาสนาได้ห้ามไว้ เพราะอาจจะถือว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ธรรมดาสำหรับเขา เหมือนการที่เขาลังเลที่จะไม่ทำการคอรัปชั่นเพราะสิ่งนั้นถ้าทำแล้วก็ได้เงิน.เหมือนคนๆนึงลังเลที่จะกินรับประทานหมูเพียงเพราะว่าเนื้อมันอร่อย เหมือนคนๆนึงลังเลที่จะลังเลที่จะฟังเพลง เพราะมันทำให้ใจร่าเริง สนุกสนาน เหมือนคนๆนึงลังเลที่จะละบุหรี่เพียงเพราะมันทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และ อีกหลายๆเหตุผลที่จะนำมาเป็นข้ออ้าง.
จงหันกลับไปมองซิว่า บรรดา ซอฮาบัต ridwanullah ‘alaihim ajma’in, พวกเขาปฏิขัติต่อคำสอนของอิสลามอย่างไรในเรื่องข้อห้ามและ อนุมัติอย่างไร? พวกเขาได้กล่าวไว้ว่า...

نَهَانَا رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- عَنْ أَمْرٍ كَانَ لَنَا نَافِعًا وَطَوَاعِيَةُ اللَّهِ وَرَسُولِهِ أَنْفَعُ لَنَا

“ท่านรอซุ้ลลุลลอ วอลลอลลอฮุอาลัยฮิวาซัลลัม ได้ห้ามเราจากสิ่งหนึ่งที่เราได้เคยปฏิบัติกันมา แต่ทว่าสิ่ที่ท่านได้บอกเรานั้นดีกว่าสิ่งที่เราเคยปฏิบัติม่ก่อนหน้านี้เป็นใหนๆ” (HR. Muslim, no. 4027)


จะเสียหายมากไหมถ้าหากเรายอมเสียสละดุนยา เพื่อ คำสอนของศาสดาและ อัลลอฮ?
มันจะเป็นความหมายอะไรเมื่อพวกท่านตักตวงแต่ผลประโยชน์จากดุนยา ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ขาดทุนในอาคิเราะห์ทั้งสิ้น?
จะเป็นอะไรมั้ยหากพวกท่านยอกละทิ้งความสะดวกความง่ายในโลกดุนยาเพื่อที่จะเป็นบ่าวที่พระองค์พึงประสงค์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า เพื่อนเป็นบ่าวที่ ตออัต เชื่อฟังและ มีเกียติ? อะไรที่พวกท่านจะได้รับจากโลกดุนยานี้เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่พวกท่านจะได้รับจากสิ่งที่แน่นอนกว่า...?

وَالْآخِرَةُ خَيْرٌ وَأَبْقَى


“อาคีเราะห์นั้นดีกว่าและแน่นอนกว่า” ((QS. Al-A’laa: 17)


อย่างไรก็ตามสิ่งที่อิสลามไม่อนุมัติต่างๆก็นำมาซึ่งผลพวงที่ดีต่อดุนยา และอาคีเราะห์ทั้งสิ้น ไม่ได้นำมาซึ่งการขาดทุนทั้งสองโลกแต่อย่างใด ดั่งเช่นอัลลออฮได้ตรัสไว้ในอายะ ต่อไปนี้...




فَلْيَحْذَرِ الَّذِينَ يُخَالِفُونَ عَنْ أَمْرِهِ أَنْ تُصِيبَهُمْ فِتْنَة أَوْ يُصِيبَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ


“บรรดาผู้ที่ปฏิเสธคำสอนของท่านรอซุ้ลควรแก่การ กลัวต่อการลงโทษที่พวกเขาจะได้พบเจอ” (QS. An Nuur: 63

ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้สำหรับผู้ที่จะฝ่าฝืนคำสอนของศาสนาควรตระหนักอย่างยิ่งว่า สิ่งที่พวกเขาจะได้รับต่อผลกรรมที่พวกเขาได้ก่อขึ้นนั้นจะเป็นเช่นไรพวกเขาเลือกที่จะตักตวงผลกำไรหรือชีวิตที่มีการขาดทุน”

สิ่งที่อิสลามไม่อนุมัตินั้นเล็กน้อยกว่าสิ่งที่อนุมัติ
คนที่พูดว่า”เอะอะๆก็ฮารอมๆ นั้นก็ไม่ได้ นี้ก้ไมได้”มิได้คิดเลยหรอกหรอว่าสิ่งที่อัลลอฮอนุมัติให้พวกเขานั้นมากมายซะกว่าสิ่งที่ไม่อนุมัติหรสิ่งที่ ฮาลาล นั้น มากว่า สิ่งที่ฮารอมซะอีก,เช่นอาหารที่ ไม่อนุมัติให้กินนั้นน้อยกว่าที่อนุมัติซะอีก.อัลลอฮ ตาอาลา ไม่ได้จำกัดอาหารที่ฮาลาลกับการแยกชนิดของอาหารนั้นๆไว้เพื่อให้เป็นการง่ายต่อบ่าวของพระองค์.เพียงสิ่งนี้ก็สรุปได้ง่ายๆว่าทุกสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ส่วนมากนั้นเป็นสิ่งที่ฮาล้าลมากกว่าฮารอมซะอีก พระองค์ได้ตรัสเกี่ยวกัยเรื่องอาหารและเครื่องดื่มโดยรวมๆไว้ว่า...

كُلُوا وَاشْرَبُوا وَلَا تُسْرِفُوا إِنَّهُ لَا يُحِبُّ الْمُسْرِفِي

“และจงกินและจงดื่ม และจงอย่าฟุ้มเฟือย เพราะแท้อัลลอฮไม่ชอบบรรดาผู้ที่ฟุ้มเฟือย” (QS. Al A’araf: 31)







รวมไปถึงเพียงแค่กี่ชนิดเท่านั้นที่อัลลออฮทรงได้ห้ามไว้ ดั่งเช่นที่พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า...

وَمَا لَكُمْ أَلَّا تَأْكُلُوا مِمَّا ذُكِرَ اسْمُ اللَّهِ عَلَيْهِ وَقَدْ فَصَّلَ لَكُمْ مَا حَرَّمَ عَلَيْكُمْ إِلَّا مَا اضْطُرِرْتُمْ إِلَيْهِ

“และมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเจ้ากระนั้นหรือ ที่พวกเจ้าไม่บริโภคจากสิ่งที่พระนามของอัลลอฮถุกกล่าวขึ้นบนมัน ทั้งที่พระองค์ทรงแจกแจกแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งสิ่ที่พระองค์ได้ทรงห้ามแก่พวกเจ้าแล้ว นอกจากสิ่งที่พวกเจ้าได้รับความคับขันให้ต้องการ” (QS. Al An’am: 119)

และอีกไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่ได้กล่าวไว้อย่างชุดเจนในฮาดิษ รอซุ้ล. จากจุดนี้นักอุลามะ ได้อธิบายไว้จาก
ส่วนหนึ่งใน kaidah fiqih:

الأصل في العبادات الحظر, و في العادات الإباحة

“ฮูกุมที่แท้จริงอิบาดะ คือ ได้ห้ามไว้,ฮูกุมที่แท้จริง อาดัต คือ ได้”

คำว่า อาดัต adah คืออะไรก็ตามที่ตรงกันข้ามกับ ไม่ใช่อิบาดัต อย่างเช่น การกิน การดื่ม การใส่เสื้อผ้า วัตถุดิบต่างๆ และอื่นๆ.ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ฮาลาลและอนุมัติสำหรับพวกเขาจนกว่าจะรู้และเข้าใจในกฎข้อห้ามต่างๆ เชค อับดุลเราะห์มาน บิน นาชิร อัส ซาดี ได้อธิบายไว้ว่า : ทุกสิ่งที่มาจาก อาดัตที่ดีก้คืออาหาร ,เครื่องดื่ม ,เสื้อผ้า ,วัตถุดิบ ,ที่ไม่ใช่อิบาดัต มุอามาลัล การงาน, ฮุกุม พื้นฐานของมันคือ อนุมัติและ ทำได้.คนที่ห้ามหรอไม่อนุมัติกับสิ่งที่เป็นอาดัต ในขณะเดียวกัน อัลลอฮแรอซุลอนุมัตินั้นเขาคนนั้น คือ บุคคล มุบตาดี (mubtadi‘)

ดังนั้นหากเราได้ทราบถึงสิ่งที่ได้ถูกอนุมัติตามหลักศาสนาแล้ว มันก็จะเป็นเรื่องง่าย

وَإِنْ تَعُدُّوا نِعْمَتَ اللَّهِ لَا تُحْصُوهَا

“และหากพวกเจ้าจะนับความโปรดปรานของอัลลอฮแล้ว พวกเจ้าก็ไม่อาจจะนับคำนวณมันได้” (QS. Ibrahim: 34)

จากเนี๊ยะมัต ที่ไม่สามารถนับคำนวณได้ มันช่ามากมายซะเหลือเกิน ความเมตตาที่พระองค์พึงมีแก่บ่าวของพระองค์ แล้วเหตุไฉนเหล่า เพียงแค่น้อยนิดที่พระองค์ทรงห้าม พวกเจ้าก็ยังดึงดันที่จะฝ่าฝืน?

คนทุกคนมีความมารถที่จะละต่อสิ่งที่ฮารอม (ไม่อนุมัติ)
อัลลอฮประทานศาสนาอิสลามาเพื่อเป็นทางนำ เพราะอิสลามคือสิ่งที่ง่ายและไม่ยุ่งยากแก่การดำเนินชีวิตของมนุษย์ชาติ .
ท่านศาสดาเคยกล่าวไว้ว่า...

إِنَّ الدِّينَ يُسْرٌ ، وَلَنْ يُشَادَّ الدِّينَ أَحَدٌ إِلاَّ غَلَبَهُ ، فَسَدِّدُوا وَقَارِبُوا وَأَبْشِرُوا

“แท้จริงแล้วศาสนานั้นเป็นเรื่องง่าย ส่วนคนที่มากเกินไปในศาสนาจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขา ดังนั้นจง อิติกอมัต และจงเข้าใกล้อิสติกอมัต,และจงเตรียมพร้อมที่จะได้รับข่าวดี” (HR. Bukhari no.39)

จนกระทั่งมีคนที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับฮาดิษบทนี้ละได้กว่าว่า “สำหรับฉันแล้วการละหมาดวันละเวลานั้นเป็นเรื่องยุ่งยาก ดังนั้นเมื่อคือสลามคือเรื่องทีง่ายดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องละหมาดวันลละห้าเวลา” ด้วยเหตุผลและข้ออ้างดังกล่าวบรรดาผู้ที่ละเลยและหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองจึงถือเป็น ข้ออ้างในการละเว้นอิบาดัตต่างๆไป. หรืออีกความหายหนึ่งคือพวกตีความว่าสิ่งนั้น “ง่าย” และ “ยาก” ว่าไปตามความคิดของตัวเองทั้งสิ้น. อะไรที่คิดว่าเป็นการยากสำหรับพวกเขาก้อละทิ้ง ถึงแม้ว่า หลักชารีอะห์จะชัดเจนเพียงใดว่านั้นคือ วาญิบ ส่วนหนึ่งใดที่ศาสนาได้ห้าม เพียงแค่เรื่องง่ายๆพวกเขากลับปฏิบัติมันเพียงเพราะอิสลามคือเรื่องง่าย?

แน่นอนเมื่อฮาดิษยังไม่หนักแน่นพอสำหรับพวกเขา อัลลอฮจงได้ตรัสขึ้นมาอีกว่า....

لَا يُكَلِّفُ اللَّهُ نَفْسًا إِلَّا وُسْعَهَا

“อัลลอฮจะไม่ทรงบังคับชีวิตหนึ่งชีวิตใดนอกจากความสามารถของชีวิตนั้นเท่านั้น” (QS. Al Baqarah: 286)

อายะนี้ ตอกย้ำให้ชัดเจนถึงเรื่องคำสอนและข้อห้ามต่างๆว่าพระองค์จะไม่สั่งใช้บ่าวของพระองค์จนเกินพลังและความสามารถของพวกเขาเว้นแต่พวกเขาจะละเล้นมันเสียเอง.และด้วยหลักฐานและเหตุผลต่าๆเพียงแค่นี้ก็บ่งชี้ชัดได้แล้วว่าอิสลาม ไม่ใช้เรื่องยุ่งยากและซับซ้อนวุ่นวาย ทว่านั้นคือทางนำแก่มวลมนุษย์และสิ่งที่ดีที่สุดให้การดำเนินชีวิต.

เชค อัลดุลเราะมานได้อธิบายเกี่ยวกับฮาดาดังกล่าวอีกว่า “ความหมายอีกนัยนึงคือ ศาสนาอิสลามนั้น ง่ายและ ไม่ยุ่งยาก,ดีในหลักอากีดะ, อัคลาค,อาม้าลๆ อิบาดัต ,คำสั่งใช้และข้อห้ามต่างๆ......ทั้งหมดนั้นไม่เกินความสามารถที่มนุษย์จำทำได้ โดยไม่ได้รู้สึกว่ามันเหนื่อยเหนื่อย หนักหนา หรือ ลำบากแต่อย่างใด เพราะอากีดะ อิสลามนั้น ไม่ได้หนักและ ลำบากแก่พวกเขาเลย.

แต่ถ้าหากว่าท่านเป็นเรื่องยากที่จะละทิ้งที่ฮารอม...จงเชื่อมั่นว่าท่านทำได้.

รับรู้และปฏิบัติ
เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่คนเราเผชิญกับความเป็นจริงที่ว่า เมื่อเราเรียนรู้ รับทราบ และเข้าสู่ขบวนการเปลี่ยน..
ดั่งเช่นที่อัลลอฮได้กล่าวไว้เกี่ยวกับ ปฏิกิริยาของบ่าวที่เต็มไปด้วยใจที่ ศรัทธาและ เชื่อฟังว่า..

نَّمَا كَانَ قَوْلَ الْمُؤْمِنِينَ إِذَا دُعُوا إِلَى اللَّهِ وَرَسُولِهِ لِيَحْكُمَ بَيْنَهُمْ أَنْ يَقُولُوا سَمِعْنَا وَأَطَعْنَا وَأُولَئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُونَ

“แท้จริงคำกล่าวของบรรดาผู้สรัทธา เมื่อพวกเขาถูกเรียกร้องไปสู่อัลลออฮ และรอซุ้ลของพระองค์เพื่อให้ตัดสินในระหว่างพวกเขา พวกเขาจะกล่าวว่า เราได้ยินแล้ว และเราเชื่อฟังปฏิบัติตาม และชนเหล่านี้พวกเขาเป็นผู้ประสบความสำเร็จ” (QS. An Nuur: 51)

เมื่อศาสนาได้สั่งห้ามในสิ่งๆหนึ่งพวกท่านพร้อมที่จะละทิ้งมันหรือไม่?







ที่มา http://www.muslim.or.id/ ประพันโดย..yulian purnama
แปลโดย...บินต. อับดุลมาลิก มูเก็ม

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ความรัก vs อารมณ์ และบาป

ความรัก vs อารมณ์ และ บาป

ฉันยังจำได้ในวันหนึ่งเธอได้ถามฉันว่า.....
“ทำไมเธอถึงตราตรึงในทุกความคิดของฉัน,รอยยิ้มบนแก้มของเธอตีตราลงบนใจฉัน”
“เพียงเพราะว่าฉันต้องการให้เธอได้รับรู่ถึงความรักอันท่วมท้นที่ฉันมีให้ทั้งหมดนี”
เธอก็เพียงแค่พยักหน้าตอบรับมัน

หนึ่งอาทิตย์ที่แสนยาวนานนั้นได้ผ่านไปเธอก็ได้แต่ถามฉันอีกว่า....
“ทำไมเธอถึงได้กอดฉันแนบแน่นที่อ้อมแขนของเธอ?”
“เพียงเพราะว่าฉันเพียงต้องการให้เธอคลายหนาว ให้ความอบอุ่นแก่เธอ เพราะเธออันเป็นที่รักของฉัน”
เธอก็เพียงยิ้มอย่างอ่อนหวาน

เมื่อวันก่อนเธอก็ได้ถามฉันอีกว่า......
“ทำไมเธอถึงได้อยากใกล้ชิดฉันเหมือนจะกลืนกินฉันลงไป”
“เพียงเพราะว่า ฉันต้องการให้เธอได้สัมผัสกับลามหายใจของฉัน ที่มันเข้าออกเพราะต้องการเพียงเธอ”
เธอก็เพียงทำหน้าออดอ้อน,แล้วหลบสายตา

เมื่อเสี่ยววินาที ที่ผ่านมาเธอก็ได้ถามขึ้นมาอีกว่า......
“ทำไม่เธอถึงปฏิเสธฉันได้ง่ายนัก เธอได้ฆ่าฉัน ได้ฉีกใจของฉัน ได้ทรมานฉัน”
“เพียงเพราะฉันเพียงแต่ต้องการรู้ ว่า อะไรที่ทำให้เธอต้องทรมาน เจ็บปวด ในหลุมฝังศพในเมื่อเราได้ผ่านอะไรด้วยกันมาเหมืนๆกัน?”
และสีหน้าของเธอก็ซีดเผือกและยิ่งดูอ่อนแรงลงเรื่อยๆ


“เพราะที่แท้จริงมีผู้คุ้มกันรักษาพวกเจ้าอยู่ คือ (มะลาอีกัต) ผุ้ทรงเกียติเป็นผู้บันทึก พวกเขารู้ในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ แท้จริงบรรดาผู้ทรงคุณธรรมนั้นจะอยู่ในความโปรดปราน และแท้จริงบรรดาคนชั่วจะถูกอยู่ในนรกที่ลุกโชดโชน” (ซูเราะฮฺ อัลอิมฟิฏอร Al-Infitar 10-14)

“โอ้คนหนุ่มสาวทั้งหลาย ใครก็ตามในหมู่สูเจ้าที่มีความสามารถ ก็จงแต่งงานซะ เพราะแท้จริงแล้วการแต่งงานนั้น จะเป็นสิ่งปกปิดจากการมองและการถูกนินทาให้มีมลทิน จากสิ่งที่เป็นที่ไม่พึงหระสงค์ของศาสนา(มะเซียต) และผู้ใดก็ตามที่ไม่สามารถจะทำเช่นนี้ได้ ก็จงถือศิลอด(บวช)
เพราะการถือศิลอดนั้น จะทำให้ชัยฏอนนั้นอ่อนแรงลงได้” ( ฮาดิษ อัลดิลละ บิน มุสอับ, กล่าวโดยท่านรอซุ้ล ซล.)

“และผู้ใดที่กระทำความชั่วหรืออธรรมแก่ตัวเอง แล้วเขาขอภัยโทษต่ออัลลอฮ เขาก็จะพบว่าอัลลอฮ เป็นผู้ทรงอภัยโทษเป็นผู้ทรงเมตตา” (ซุเราะห์ อัลนิซาอ.)


ที่มา
http://www.wattpad.com/92073ฤ