วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

นิยายรัก ฉบับอิสลามมิค :กุหลาบซ่อนหนาม

นิยาย :ความงดงามของกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนาม

“คาซีนาตุล อัซรัร” คาซานา (สิ่งเป็นความลับ)
หญิงสาวคนนึง ที่ปกปิด และเก็บความงาม ,ความบริสุทธิ์ไว้ในจิตใจ ที่มีความยำเกรงและ รัก ต่อ อิลาฮี ถึงแม้จะมีม่านแห่ง อาวรัต ที่ปกปิดตัวของหล่อน.แม้หล่อนจะเป็นที่ปรารถนาหมายปองของบรรดา ชายและบุรุษหลายคน แต่ทว่ามุมมองความรักของเธอที่ยึดมั่นอยู่นั้นก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ไม่ง่ายเลยที่ใครก็ตามต้องการจะเป็นเจ้าของ กุหลาบดอกนี้.หล่อนยังคงเชื่อมั่นในมุมมองความรักที่ยึดไว้ด้วยใจที่เข้มแข็งถึงแม้บางครั้งความรักจะเข้ามาถามหาและ ปรารถนาในตัวของเธอเพียงใด.คาซีนาตุล อัซรัร เธอได้รับความแตกต่างที่แสนพิเศษเพียงเพราะสิ่งถูกปิดบังเป็นความลับนั้นคือรักที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า รักที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ มุมมองของความรักซึ่งมีอิทธิพลต่อหล่อนเป็นสาเหตุที่ทำให้หล่อนหลุดพ้นจากสิ่งต้องห้ามและบาปอันเป็นที่ไม่พึงประสงค์ของศาสนา.
อะไรคือมุมมองความรักของ คาซีนาตุล อัซรัร ที่แท้จริง?
จริงหรือที่เราจะรักผู้ชายสักคนเพื่อ อิลาฮี เพื่ออัลลอฮ ?
แล้วเหตุไฉนกันเหล่าผู้ชายทั้งหลายถึงได้เลือกที่จะครอบครอง กุหลาบที่ แรกแย้ม บานสะพรั่งและสีสันสวยงามในสวนดอกไม้นั้น?และอีกหลายๆคำถามที่ยังต้องการคำตอบว่าทำไม....จวบจนในทีสุดก็ไดปรากฏชายผู้ที่อัลลฮได้เลือกไว้แล้วสำหรับกุหลาบที่เต็มไปด้วยหลามดอกนี้,ผู้ที่จะเป็นผู้เปิดเผยถึงร้อยพันความลับอันบริสุทธิ์ที่ผู้ปิดบังไว้ภายม่านหัวใจซึ่งเป็นกุญแจ ของความรัก ในใจ คาซีนาตุล อัซรัร.อย่างไรก็ตามท้ายที่สุด คาซีนาตุล อัซรัร ก็ได้มีผู้ที่คู่ควรได้ครอบครงหล่อนไป.
แล้วใครกันที่จะเป็นผู้ที่จะสามารถพิชิตหนามของกุหลาบดอกนี้ได้?


“คาซีนาตุล อัซรัร, เธอคือจอมขโมย!”

คาซีนาตุล อัซรัร หล่อนถึงกับอึ้งเมื่อได้อ่านข้อความที่เขียนบนโน้ตสีฟ้าใบเล็กๆใบนั้น ที่เหน็บอยู่ในหนังสือ วิชา อูศุลฟิก ของเธอ. คำถามเป็นร้อยวิ่งเข้ามาในสมองของเธอ “ฉันไปขโมยอะไรมา”หล่อนแอบคิดในใจด้วยความรู้สึกสงสัยและงวยงง.พลางหล่อนก็ทอดสายตามองไปทั่วๆห้องเรียน,เพื่อหาสายสักคู่ที่อาจจะจับจ้องมาที่โน้ตที่เธอถืออยู่ เพื่อบ่งบอกว่าใครคือเจ้าของ แต่หล่อนกลับมอไม่เห็น สายตาคู่ใดที่จับจ้องมาที่ หล่อนเลยสักคนเดียว ที่มีปฏิกิริยาที่บอกว่า เป็นเจ้าของข้อความบนกระดาษแผ่นนี้ ต่างคนต่างก็ยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง. “ช่างมันเถอะ”! หล่อนบ่นในใจอีกครั้ง . หล่อนไม่ต้องการที่จะคิดมากเรื่องโน้ตปริศนาแผ่นนี้ ถึงแม้จะเกิดคำถามมากมายในใจของหล่อน . คาซีนาตุล ดึงแขนเสื้อขึ้นเล้กน้อยเพื่อดูเวลาที่ข้อมือของหล่อน ขณะนี้เวลา 08.50 น. เหลือเวลาอีกแค่ สิบนาที ก่อนที่ คลาส วิชา อูศุลฟิก จะเริ่มขึ้น.อีกสักครู่ ดร.มัยซาเราะ ที่เป็นอาจารย์ประจำวิชานี้ก็คงจะถึงมาที่ห้องเรียนของหล่อน เพือเริ่มการเรียนในเช้าวันนี้. ไม่กี่อึดใจ อาจารย์ประจำวิชาก็เดินทางมาถึงหน้าห้องเรียน ด้วยสีหน้าที่มักคุ้นกันดี หญิงสาว อายุราวๆ 40 ต้น. อาจารย์เข้าประจำที่ของเธอที่หน้าห้องเรียนและการเรียนการสอนก็พร้อมที่จะเริ่มขึ้น เมื่อคาซีนาตุล สังเกตก็เพิ่งจะเห็นว่าเก้าอี้ตัวข้างๆหล่อนนั้น ยังคงว่างเปล่า.
“ฮิจรียะห์ไปไหน?”คาซีนาตุล ถามตัวเองเบาๆ หล่อนได้ทอดสายตามองไปรอบๆห้องเรียนและสอดสายตาผ่านประตูออกไปเพื่อมองหาเพื่อนร่วมห้องของเธอ, “ฮิจริยะห์ อาจจะไม่สบาย...สงสัยจะมาเรียนไม่ได้วันนี้. แต่ว่า...เขาจะไม่สบายจริงๆนะหรอ? ถ้าหากป่วยนิดๆหน่อยๆ ก็คงไม่ถึงกับขาดเรียน,ฮิจริยะ ไม่ใช่คนที่จะขาดเรียนง่ายๆ” คาซีนาตุล นึกในใจ พลางแอบรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเธอขึ้นมาทันที.
“ฮิจริยะห์ ไม่มาหรอวันนี้? ผมนั่งตรงนี้ได้มั้ยครับ?
มโนภาพของคาซีนาตุล หยุดชะงักลงทันที ที่ได้ยินเสียงทักดังขึ้น ,คาซีนาตุล หันไปมองเจ้าของเสียงที่ทักเธอเสมือน คนคุ้นเคย คาซีนาตุล เงียบโดยที่เธอไม่ได้ตอบโต้ เขาแต่อย่างใด , คาซีนาทำได้เพียง อิซติฆฟาร ยาวๆพร้อมกับถอนหายใจลึกๆเหมือนหล่อนได้เห็น ใบหน้าของชายหนุ่มเจ้าของเสียงนั้น คือ นักศึกษาต่างชาติคนหนึ่ง ยืนอยู่ไม่กลจากที่เธอนั่งอยู่นั้นเอง. ที่แท้ก็คือชายหนุ่มผู้ที่ไม่เคยที่จะเลิกตื้อและตอแยหล่อนตลอด ทั้งๆที่คาซีนาตุลไม่เคยแม่แต่จะ ใส่ใจอะไรในตัวของเขาเลย,
เหล่าบรรดานักศึกษาที่อยู่ในห้องเรียนก็พร้อมที่จะเริ่มบทเรียน, คณะอิสลามศึกษา,ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาฟังที่อาจราย์กำลังสอนและ ใส่ใจอยู่.
“ทำไมนั่งคนเดียวได้ละครับวันนี้?ฮิจริยะห์ไปไหนหายไปไหนละครับ?” ชายหนุ่มคนนั้นได้เริ่มต้นการสนทนาด้วยน้ำเสียงที่ อ่อนโยน ในขณะที่ อาจารย์กำลังทำการสอนอยู่หน้าห้องแท้ๆ, คาซีนาตุลเริ่มรู้สึกถูกรบกวนด้วยการถูกชักชวนสนทนาขณะกำลังเรียนอยู่...
ใบหน้าคาซีนาตุลเริ่มแดง และ อึดอัดในปฏิกิริยา ของชายหนุ่ม..อัซตัฆฟิรุลลอฮ
“ขอมาอัฟนะค่ะ เรากำลังอยู่ในห้องเรียนค่ะ กรุณาให้เกียติอาจารย์ด้วยค่ะ” คาซีนากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ปน ด้วยซีเรียส กับชายหนุ่มคนนั้น , เธอไม่เปิดโอกาสแกเขา ที่ต้องการหาโอกาศเข้าหาเธออยุ่ทุกวิถีทาง เธอยังคงสนใจอยู่กับอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่หน้าห้อง และบทเรียนของเธอโดยไมได้ใส่ใจเขา , ภาพของฮิจริยะ ก็พลันเข้ามาในสมองของ คาซีนา ถ้า เพื่อนของเธอมาเรียนด้วย ชายหนุ่มคนนี้ คงไมได้มานั่งกับเธอเช่นนี้ , แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนขอเธอเมื่อเช้า ฮิจริยะ ก็แต่งตัวมาเรียนตามปกติ ไม่มีท่าทีว่าฮิจริยะจะไม่สบาย แล้ว หล่อนหายไปใหนกัน?
คาซีนาเริ่มรู้สึกผิด ถ้าฉันมาเรียนพร้อม ฮิจริยะก็คงจะดีสินะ หล่อนแอบพูดกับตัวเองเบาๆ ไม่ใช่เพราะอะไรแต่เพราะว่า ฮิจริยะ ชอบมาสายอยู่ประจำ จนบางครั้งก็ทำให้คาซีนา ต้องพลอยมาสายไปด้วย , และอาจจะมาไม่ทันเข้าเรียนด้วยซ้ำ . ชายหนุ่มคนนั้นเริ่มรู้ตัวว่า คาซีนาตุล ไม่พอใจกับปฏิกิริยาของเขา , เขาเงก็เริ่มหันไปให้ความสนใจเรื่องเรียนแทนในทันที ซึ่งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาจะโดนคาซีนา พูดเชิงติ พฤติกรรมที่ไม่รู้จักที่ และเวลา ในการพูดคุย , เมื่อมีโอกาสเขามักจะเข้ามาหาและพูดคุยกับเธออยู่ตลอดเวลา , และคาซีนาก็มักจะแสดงอาการไม่พอใจด้วยวิธีที่อ่อนโยนและสุภาพกลับไปทุกครั้ง , แม้กระทั่งครั้งแรกที่ทำความรู้จักกัน , คาซีนาไม่เคยให้แม้แต่รอยยิ้มหวานๆแก่เขา , แต่ทว่า ซาบิท (ชื่อของชายคนนั้น) คือเด็กหนุ่มคนนึงไม่เคยรู้จักกับคำว่า เหนื่อยและเบื่อหน่ายที่จะเลิก ตื้อ คาซีนา ,ความสุภาพ ,อ่อนโยน,ความสวยงาม,อัคลาคและบุคลิคของคาซีนาตุล ได้หลอมละลายความ รู้สึกต่างๆเหล่าจากใจของ ซาบิทไปหมดแล้ว คาซีนาตุลได้เข้าไปอยู่ในทุกอณูความคิดของ ซาบิทแม้ในเวลากลางวันหรือกลางคืน ภาพของเธอที่อ่อนโยน ใส่ฮิญาบผืนใหญ่ปกปิดร่างกายอาวรัตของเธอ บวกกับ บายะห์(เสื้อยูบะห์)ยาวทั้งตัว เหมือนดั่งสิ่งที่ถูกตกแต่งให้ดูสวยงามในชุด มุสลิมะที่ ซอลิฮ ตามแบบฉบับ ซุนนะห์ ,หล่อนคือมุสลิมะที่สมบูรณ์แบบจริงๆ.

“พรุ่งนี้เราจะมีการพรีเซ้นท์ เรื่องนี้กันนะค่ะ อัสลามมุอาลัยกุม” อ.มัยซาเราะ กล่าวก่อนจะปิดคลาสคาบของหล่อนไป.
“อัซตัฆฟิรุลลอฮัลอาซีม...ฉันได้อะไรบ้างในห้องเรียนวันนี้?”คาซีนาอุทารขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ซาบิทที่นั่งอยู่ข้างๆเมื่อได้ยินคาซีนา กล่าวเช่นนั้นก็หันมามอง คาซีนา ทันที “ทำไมหรอ อัซรัร” ซาบิทรวบรวมความกล้าแล้วยิงคำถามกับ คาซีนาอีกครั้ง
“อือ ไม่มีอะไรค่ะ” คาซีนาตอบคำถามแบบไมได้ใส่ใจอะไรแล้วหล่อนก็รีบๆเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว.
“ผมรู้คุณยังไม่ได้จด โน้ตที่อาจารย์สอนไปเลยใช่ไหมครับ? คุณกำลังคิดถึงอะไรบางอย่างอยู่ ผมเห็นคุณใจลอยอยู่ตลอดเวลาใช่มั้ยครับ?” ซาบิทลองเดาดู , เพราะว่าตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มบทเรียนจนจบการเรียนคลาสนี้ ซาบิทก็จีบจ้อง ทุกอิริยาบถ ของ คาซีนา. คาซีนาไม่พูดอะไรตอบหล่อนรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่หล่อนนั่งอยู่ อย่าลุกลี้ลุกลนเพื่อที่จะจบการสนทนาที่ไม่พึงประสงค์นี้สักที.
“มาอัฟค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว” หล่อนกล่าวเพียงสั้นแล้วรีบปลีกตัวออกจากที่นั่ง
“เห้อ !!! ทำไมหยิ่งจังเลยละครับ” ซาบิทพูดขึ้น
“หยิ่งก็หยิ่งค่ะ แล้วแต่คุณจะคิด....thaks” คาซีนาตุลตอบแค่นั้น แล้วเดินผ่านหน้าซาบิทไปอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวก่อนครับ” ซาบิทเข้ามาขวางไว้ . คาซีนา ลดสายตาลงต่ำไม่มองแม่แต่หน้าของเขา คาซีนาไม่แม้แต่จะสบสายตากับ เด็กหนุ่มสายเลือด ลูกครึ่งมลายู เลบานอน คนนี้, คาซีนาเพียงแค่สูดหายใจลึกๆด้วยความเหนื่อยกับ ท่าทีของซาบิท รู้สึกโกรธนิดๆที่ถูกขวางทางเดิน คาซีนา ได้แต่ซิกิรอยู่ในใจ
“อือ ถ้าเธอไม่ว่าอะไร เอาโน้ตของผมไปจดก่อนก็ได้นะครับ” ซาบิทยื่นสมุตโน้ตสีฟ้าอ่อนเล่มหนึ่งให้กับคาซีนา,
“ขอบคุณค่ะแต่ไม่เป็นไรค่ะฉันค่อยไปยืมสมุดโน้ตเพื่อนๆผู้หญิงคนอื่นได้ค่ะ” คาซีนาตอบ พร้อมกับไม่ยอมรับโน้ตเล่มนั้นไว้
“ถ้าอย่างนั้น เธอช่วยเอาสมุตโน้ตของผมเล่มนี้ไปให้ ฮิจริยะ จดก่อนก็ได้ครับ” ซาบิท ยังคงพยายามอีกครั้ง.ซาบิททราบดีว่า ฮิจริยะ พักอยู่ห้องเดียวกับ คาซีนาตุล เขายังคงหาวิธีเพื่อสร้างมิตรกับหล่อน.
“ขอบคุณ คุณอีกครั้งนะค่ะแต่ฉันคิดว่า ฮิจริยะเองก็คงต้องแชร์โน้ตเดียวกับฉันได้เช่นเดียวกันค่ะ ทางที่ดีคุณเอาโน้ตของคุณคืนไปแล้ว เตรียมพร้อมสำหรับการพรีเซ้นท์พรุ่งนี้จะดีกว่านะค่ะ” คาซีนาตุล พูดด้วยน้ำเสียงเข้มแต่ สุภาพอีกครั้ง
“เห้อ , นี้คุณทำไมคุณถึงหยิ่งแล้วปฏิเสธแบบนี้ละครับ ไม่ดีรู้มั้ยครับ ทำหยิ่งใส่คนอื่นแบบนี้ อัลอลฮไม่ชอบคนที่ทำตัวหยิ่ง ,ต้องให้ยกหลักฐานให้ฟังหรือครับคุณถึงจะเข้าใจ” ซาบิทเริ่มหมดความอดทนต่อคาซีนาตุล ที่ปฏิเสธทุกความช่วยเหลือของเขา
“อย่ามาอวดยกหลักฐานเลยค่ะ , ดูจากสถานการณ์แล้ว ,อัลอลฮคงไม่ชอบพฤติกรรมของคุณมากกว่า”
คาซีนาตุลพูด ตัดพ้อ เพื่อให้การสนทนาจบๆเสียที
“คุณไม่เต็มใจและไม่ต้องการเอาโน้ตของผมไปดู แล้วคุณก็หาข้ออ้างต่างๆนาๆเพือ่ปฏิเสธผม ,ผมแค่ให้
อามานะ คุณช่วยเอาโน้ตของผมไปให้ฮิจริยะเท่านั้นเอง” ซาบิทพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน พลางก็วางสมุดโน้ตเล่มนั้นไว้บนโต๊ะ แล้วรีบพละตัวออกทันที. คาซีนาตุล หันไปมองเขา แล้วก็ส่ายหัวไปมาด้วยความดื้อดันของ ซาบิท หล่อนรู้สึกเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของซาบิทที่พยายามยัดเยียดสมุดโน้ตให้หล่อนทั้งๆที่หล่อนไมได้ต้องการหรือขอร้องเลย. ทำยังกับว่า จดโน้ตอยู่คนเดียวในห้อง , หลังจากที่คาซีนาครุ่นคิดอยู่สักพักหล่อนก็ยอมถือสมุดโน้ตของซาบิทกลับไปให้ ฮิจริยะ ด้วย “อามานะ” ที่ซาบิท เสนอแกมบังคับและ ยัดเยียดให้เธอจึงจำเป็นต้องทำ.
คาซีนาเริ่มคิดถึงเรื่องฮิจริยะเพื่อนคนสนิทของเธออีกครั้ง หลังจากที่คาใจอยู่ตั้งแต่ในห้องเรียน , เกิดคำถามขึ้นมากมายในใจของคาซีนาตุล ฮิจริยะ ไม่เคยขาดเรียนอย่างเช่นที่ขาดเรียนวันนี้ , ในฐานะที่เป็น เพื่อนร่วมห้องและร่วมหอเดียวกัน คาซีนาต้องการจะทราบถึงเรื่องราวของฮิจริยะเป็นอย่างมาก ปนกับความข้องใจของหล่อน . หรือ ฮิจริยะจะไม่สบายจริงๆ?คาซีนาเริ่มคิดมากและฟุ้งซ่านถึงเพื่อนของหล่อนที่หายไป ความรู้สึกผิดเริ่มก่อตัวขึ้นในใจคาซีนาตุล ฉันน่าจะรอฮิจริยะก่อน ก็หล่อนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการมาเรียนแต่เนิ่นๆ พักหลังๆนี้เหมือนไม่ค่อยได้ใส่ใจเพื่อน (ฮิจริยะ) หรือเปล่านะ.? ด้วยภาระหน้าที่ของคาซีนาที่ยุ่งอยู่ตลอดเวลาในฐานะ ตัวแทนนักศึกที่มหาลิทยาลัยนานาชาติ แห่งนี้ จึงทำให้งานรัดตัว จนแทบไม่มีเวลาเลยก็ว่าได้. ไม่ว่าจะ ลงแรงกาย แรงใจ ทุ่มทุน ทุกอย่างคาซีนาก็ไม่แคร์ หล่อนทำทุกสิ่งอย่างเต็มที่
เวลากลางคืนคาซีนาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเข้าไปห้องสมุด ทบทวนบทเรียน สำหรับคาซีนาแล้ว การพักผ่อนไม่ใช่เรื่องสำคัญในชีวิตของเธอมีสิ่งที่ต้องทำอีกเยอะแยะมากมาย
หล่อนได้เอาคำกล่าวของ ท่าน อะซัน อัล บันนา เป็นบรรทัดฐานในการ ดำเนินชีวิตในส่วนหนึ่ง
อย่างที่ ท่าน ฮาซันได้กล่าวไว้ว่า
“ สิ่งที่จำเป็นจะตองทำนั้นมีมากว่า เวลาที่ท่านมีซะอีก”

โปรดติดตาชม ตอนต่อไป

บินต. อับดุลมาลิก ^_^

1 ความคิดเห็น: